รู้หรือไม่? ผลไม้มีประโยชน์อย่างไร

S__30662659

นอกจากยาที่สามารถรักษาโรคภัยและอาการเจ็บป่วยของร่างกายแล้ว รู้หรือไม่? ผลไม้ที่รับประทานในชีวิตประจำวันก็มีทั้งวิตามินและแร่ธาติที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราเช่นเดียวกันอีกด้วย ทั้งรับประทานง่าย และมีชาติหวานถูกปาก และหาซื้อง่ายตามท้องตลาดทั่วไป เราลองมาดูผลไม้บางส่วนดีกว่าว่ามีอะไรบ้างและแต่ละชนิดให้ประโยชน์อย่างไรกับร่างกายเราบ้าง

1.ส้ม ต้านทานการอักเสบ ป้องกันได้หลายโรค


ส้มที่มาพร้อมรสชาติหวานอมเปรี้ยว ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินซีจำนวนมาก และยังมีวิตามินชนิดอื่นๆ หลายชนิด นอกจากนี้ยังมีเบต้าคาโรทีน เส้นใยอาหาร แคลเซียม โพแทสเซียม เหล็ก และฟลาโวนอยด์ ฯลฯ จึงจะช่วยต้านทานการอักเสบ รักษาแผลให้หายเร็วขึ้น ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต่างๆ รักษาโรคลักปิดลักเปิด ช่วยล้างพิษ และป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบได้

2.แอปเปิ้ล ช่วยล้างพิษป้องกันมะเร็งลำไส้


แอปเปิ้ลไม่ว่าจะสีไหนต่างก็มีประโยชน์และรสชาติอร่อยหอมหวาน ให้ประโยชน์กับร่างกายทั้งในส่วนของเนื้อและเปลือกแอปเปิ้ล ยิ่งโดยเฉพาะในเปลือกแอปเปิ้ลก็มีสารฟลาโวนอยด์ปริมาณมาก โดยจะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยดีท็อกซ์พิษออกจากลำไส้ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้นั่นเอง

3.ลูกพีช ช่วยปกป้องเซลล์ และบำรุงหัวใจ


ลูกพีชผลไม้หอมหวานแสนอร่อย เป็นแหล่งของวิตามินเอและวิตามินต่างๆ รวมไปถึงแร่ธาตุชนิดอื่นๆ จัดว่าเป็นผลไม้ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีเบต้าคริปโตแซนทินที่จะช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลาย ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงกระเพาะอาหาร เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า และช่วยเพิ่มพลังสมองให้รู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น

 

4.อะโวคาโดป้องกันโรคไข้หวัด ปกป้องร่างกายจากมลพิษ

อะโวคาโดมีทั้งวิตามินบีและวิตามินซีสูง กินแล้วจะช่วยป้องกันไข้หวัด โรคลักปิดลักเปิด โรคเหน็บชา ปากนกกระจอก และยังมีวิตามินอีสูง โดยจัดว่าเป็นผลไม้แห่งความงาม เพราะสามารถช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ บำรุงผิวพรรณ ปกป้องร่างกายจากมลภาวะ ลดบ่อเกิดของเซลล์มะเร็งและโรคหัวใจได้

 

PHOTO GALLERY

ข่าวสารและบทความ

งานประชุมใหญ่สามัญสมาคมร้านยา ประจำปี 2564

บริษัท ชินต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เข้าร่วมงานประชุมใหญ่สามัญสมาคมร้านยา ประจำปี 2564 ที่ไบเทคบางนา ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2564

ออกบูธสมาคมร้านยาที่ ไบเทคบางนา 26/5/67

บริษัท ชินต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานประชุมสมาคมร้านขายยาในวันที่ 26 พฤษภาคม 2567 ซึ่งในครั้งนี้ได้จัดขึ้นที่ไบเทคบางนา

ดูแลกระดูกอย่างไรให้แข็งแรง

กระดูกเป็นแกนของร่างกาย มีความสำคัญต่อการพยุงอวัยวะต่างๆ รวมถึงท่าทางการยืน การเดิน และการทรงตัว โครงสร้างกระดูกที่แข็งแรงเกิดจากการทำงานของเซลล์กระดูกที่สมดุล คือมีกระบวนการสลายกระดูกเก่าที่อ่อนแอ และสร้างกระดูกใหม่ที่แข็งแรง และรับแรงกระแทกได้ดี แต่เมื่ออายุขึ้นเลข 3 กระบวนการดังกล่าวเริ่มเสียสมดุล การสร้างกระดูกใหม่ลดลง ทำให้กระดูกบาง  และมีความสามารถในการรับน้ำหนักตัวลดลง เสี่ยงต่อการแตกหักของกระดูกในระยะยาว ภาวะดังกล่าวเรียกว่า “โรคกระดูกพรุน”

ดูแลกระดูกอย่างไรให้แข็งแรง

1.เสริมแคลเซียม แคลเซียมเป็นแร่ธาตุหลักของโครงสร้างกระดูก เราทุกคนจำเป็นต้องได้รับแร่ธาตุแคลเซียมวันละ 800-1,200 มก. ต่อวัน ผู้ที่ต้องการบำรุงกระดูกควรเน้นการบริโภคอาหารประเภทผักใบเขียว นม โยเกิร์ต ถั่ว และงาหรือเลือกรับประทานจากผลิตภัณฑ์แคลเซียมเสริมอาหาร ที่ให้แคลเซียมอิสระสูง 600 มก. ต่อเม็ด

2.การออกกำลังกาย เป้นการกระตุ้นการทำงานของเซลล์กระดูกให้ทำงานได้ดี ซึ่งจะให้ผลดีแตกต่างกันไปในแต่ละวัย